ทรัมป์ จ่อขึ้นภาษี ‘เฟอร์นิเจอร์’ เส้นตาย 50 วัน จับตากระทบส่งออกไทย

01 กันยายน 2568
ทรัมป์ จ่อขึ้นภาษี ‘เฟอร์นิเจอร์’ เส้นตาย 50 วัน จับตากระทบส่งออกไทย

สคต.ไมอามี รายงาน ทรัมป์จ่อขึ้นภาษีนำเข้าเฉพาะสินค้าเฟอร์นิเจอร์ เสี่ยงกำแพงภาษีสูง ขณะที่เฟอร์นิเจอร์ไทยติดอันดับ 10 แหล่งนำเข้าสหรัฐฯ

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณเมืองไมอามี กระทรวงพาณิชย์ รายงานว่าหลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี ได้ประกาศผ่านทาง Truth Social ว่าสหรัฐฯ กำลังพิจารณากำหนดอัตรากำแพงภาษีนำเข้าเฉพาะสินค้าเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งในขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริง เหตุผลความจำเป็น เพื่อการกำหนดอัตรากำแพงภาษีที่แน่นอนต่อไป โดย ทรัมป์ ยังได้กำหนดกรอบเวลาในการประกาศอัตรากำแพงภาษีภายใน 50 วัน (นับจากวันที่ 22 สิงหาคม เป็นต้นไป)

ทั้งนี้ การประกาศอัตรากำแพงภาษีนำเข้าเฉพาะสินค้าเฟอร์นิเจอร์ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่เนื่องจากหากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ได้เคยลงนามคำสั่งประธานาธิบดี (Executive Order) ว่าด้วยภัยคุมคามต่อความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯจากการนำเข้าไม้ดิบ ไม้แปรรูป และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้  โดยให้กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯดำเนินการสืบสวนการเสียเปรียบทางการค้า

ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์คาดการณ์กันว่ากำแพงภาษีนำเข้าเฉพาะสินค้าเฟอร์นิเจอร์นี้มีความเป็นไปได้ที่จะอ้างหลักเกณฑ์ตามมาตรา 232 (Section 232) ของพรบ. Trade Expansion Act 1962 ว่าด้วยมาตรการด้านความมั่นคงของชาติในการบังคับใช้ เนื่องจากเมื่อครั้งกำหนดกำแพงภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมก็ได้ใช้มาตราเดียวกัน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงก็อาจเป็นไปได้ว่ากำแพงภาษีนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จะอยู่ในอัตราที่สูงกว่ากำแพงภาษีนำเข้าแบบต่างตอบแทน (Reciprocal Tariff) เมื่อพิจารณาเทียบเคียงกับอัตรากำแพงภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 50% ทั้งหมด

แม้ว่าจากคำประกาศของ ทรัมป์ จะขีดเส้นให้กระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้นได้ข้อสรุปเป็นตัวเลขภายใน 50 วัน ซึ่งหมายถึงช่วงกลางเดือนตุลาคมของปีนี้ แต่ทว่ากฎระเบียบในทางเทคนิคนั้นได้กำหนดกรอบเวลาในการสรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริงของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯให้แล้วเสร็จใน 270 วัน และกรอบเวลาสำหรับประธานาธิบดีอีก 90 วันในการสั่งการตามผลการสอบสวนดังกล่าว ทำให้เส้นตาย 50 วันที่ ปธน.ทรัมป์ประกาศแท้จริงแล้วอาจเป็นเพียง “การหวังผลทางการเมือง” มาก่อนก็เป็นได้  

อย่างไรก็ตาม สินค้าเฟอร์นิเจอร์ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกลุ่มสินค้าที่สำคัญของประเทศไทยที่ส่งออกมายังสหรัฐฯ ดังจะเห็นได้จากข้อมูลในข้างต้น โดยในภาพรวมสหรัฐฯนำเข้าสินค้าเฟอร์นิเจอร์จากประเทศไทยมากที่สุดเป็นลำดับที่ 10 ซึ่งมีกลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป สินค้าโคมไฟ และสินค้าเก้าอี้เป็นรายการสินค้านำเข้าหลักจากประเทศไทย ทำให้การติดตามความคืบหน้าของข้อมูลเชิงนโยบายและกฎระเบียบเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าเฟอร์นิเจอร์หลังจากนี้ควรที่จะต้องเป็นไปด้วยความรอบครอบในรายละเอียด ได้แก่

  1. รายละเอียดเฉพาะเจาะจงของกลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ที่อาจเข้าข่ายอัตรากำแพงภาษีนำเข้า ซึ่งเป็นไปได้ที่อาจจะเหมารวมทั้งหมดทุกประเภทในอัตราเดียวกัน หรือกำหนดอัตราแยกสำหรับแต่ละกลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ อาทิ กลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์จำแนกตามวัสดุ (ไม้ เหล็ก หุ้มเบาะ) และ กลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ตามหมวดหมู่การใช้สอย2. รูปแบบการกำหนดอัตรากำแพงภาษีนำเข้าสินค้าเฟอร์นิเจอร์ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดอัตราเดียวกันบังคับใช้กับทุกประเทศแหล่งนำเข้า หรือระบุเฉพาะเจาะจงอัตราพิเศษสำหรับบางประเทศแหล่งนำเข้า เพื่อประโยชน์ในการวางแผนการแข่งขันและการกำหนดยุทธศาสตร์ในการส่งออกสินค้า

2. รูปแบบการกำหนดอัตรากำแพงภาษีนำเข้าสินค้าเฟอร์นิเจอร์ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดอัตราเดียวกันบังคับใช้กับทุกประเทศแหล่งนำเข้า หรือระบุเฉพาะเจาะจงอัตราพิเศษสำหรับบางประเทศแหล่งนำเข้า เพื่อประโยชน์ในการวางแผนการแข่งขันและการกำหนดยุทธศาสตร์ในการส่งออกสินค้า

  1. การกำหนดข้อยกเว้น กรณียกเว้น และกรอบระยะเวลาในการบังคับใช้อัตรากำแพงภาษีนำเข้า ตลอดจนวิธีการคำนวณอัตรากำแพงภาษีนำเข้าว่าจะเป็นการคำนวณเพิ่มเติมจากอัตรากำแพงภาษีนำเข้าตัวอื่น ๆ หรือคำนวณอาจทดแทนกัน

ทั้งนี้ สคต. ณ เมืองไมอามีจะติดตามความคืบหน้าของอัตรากำแพงภาษีสำหรับสินค้าเฟอร์นิเจอร์อย่างใกล้ชิด พร้อมรวบรวมข้อมูลจัดทำรายงานสภาวะสินค้าเฟอร์นิเจอร์ในสหรัฐฯ เพื่อการเผยแพร่ในโอกาสต่อไป  (เฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว เป็นต้น)

 


แหล่งที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.